โดยปกติถ้าเราจะทำวีดีโอPresentationหรือตัดต่อวีดีโอ เราจะใช้โปรแกรม Sony Vegas หรือProshow Gold แต่โปรแกรมที่พูดถึงมีขั้นตอนที่อาจจะยุ่งยากสักนิดนึง สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้หรือมือใหม่หัดทำอีกทางเลือกหนึ่งของการทำวีดีโอแบบง่ายๆ ที่เด็กๆ ป.2 - ป.3ก็สามารถทำวีดีโอของตนเองได้ คือใช้โปรแกรมที่มากับ Windows ชื่อโปรแกรม windows movie maker
ตอนนี้เป็นตอนแรกที่จะนำเสนอวิธีการทำวีดีโอแบบง่ายๆจากwindowsmovie maker ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายๆเหมาะสำหรับการทำวีดีโอที่ไม่ได้ต้องการ effect อะไรมากมายตอนแรกนี้จะเป็นวิธีการทำวีดีโอภาพประกอบเพลง หรือที่เรียกว่า VDOPresentation ซึ่งสามารถนำไปทำได้หลายอย่างแล้วแต่เราต้องการค่ะเช่น presentationงานแต่งงาน ของขวัญวันเกิด การนำเสนอหรือในโอกาสพิเศษอื่นๆ ที่ต้องการจะนำภาพมาทำเป็นวีดีโอค่ะ
วิธีใช้โปรแกรม Windows Movie Maker
1. คลิกปุ่ม Start > All Programs > Windows Movie Maker ทีนี้โปรแกรมก็พร้อมที่จะทำงานแล้วล่ะค่ะ
Thanks: ฝากรูป" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
ส่วนที่ 1 Task Pane เป็นส่วนบอกลำดับขั้นตอนในการทำวีดีโอซึ่งหากเราทำตามขั้นตอนตั้งแต่ 1 – 3 รับรองได้ว่ามีคลิปไว้โชว์เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ
ส่วนที่ 2 Collections ส่วนนี้ใช้เป็นที่เก็บไฟล์วีดีโอ, ไฟล์ภาพนิ่ง, หรือ ไฟล์เสียงที่เราได้นำเข้ามาใช้ในการทำคลิปค่ะ
ส่วนที่ 3 Preview ส่วนนี้สำหรับแสดงคลิปวีดีโอตัวอย่างที่ถูกเลือกขึ้นมาจากหน้าต่างCollections หรือทดลองเล่นคลิประหว่างแก้ไขตกแต่งค่ะ
ส่วนที่ 3 Preview ส่วนนี้สำหรับแสดงคลิปวีดีโอตัวอย่างที่ถูกเลือกขึ้นมาจากหน้าต่างCollections หรือทดลองเล่นคลิประหว่างแก้ไขตกแต่งค่ะ
ส่วนที่4 Timeline/Story board เป็นส่วนที่เราต้องใช้บ่อยที่สุดค่ะเพราะเป็นส่วนที่ใช้ในการตกแต่งแก้ไขคลิปวิดีโอของเรานั่นเองค่ะ
2. เริ่มต้นด้วยการนำคลิปวิดีโอที่ต้องการตกแต่งเข้ามาในโปรแกรม Windows Movie Maker ค่ะ อย่างที่เรียนให้ทราบตั้งแต่ต้นว่า เราเริ่มต้นด้วยการทำงานตามลำดับใน Task Pane โดยเราสามารถนำคลิปวิดีโอเข้ามาตกแต่งได้4วิธี ค่ะ คือ
Thanks: ฝากรูป" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
- Capture from video device อันนี้สำหรับผู้ที่ต้องการนำวิดีโอจากกล้องDigital Video (หรือที่ใครๆมักเรียกว่า Handy -Import Video อันนี้จะเป็นการนำเข้าวิดีโอในรูปแบบของไฟล์วิดีโอที่เรามีอยู่แล้วในHard disk ,แผ่น CD,ใน ThumbDrive หรือในแผ่น DVD
-Import Picture เป็นการนำไฟล์รูปภาพมาสร้างเป็นคลิปวิดีโอ คล้ายสไลด์ค่ะ
-Import audio or music สำหรับผู้ที่ต้องการใส่เสียงเข้าไปในคลิปวิดีโอ เมนูนี้จำเป็นอย่างมากค่ะ
-Import audio or music สำหรับผู้ที่ต้องการใส่เสียงเข้าไปในคลิปวิดีโอ เมนูนี้จำเป็นอย่างมากค่ะ
3. ในทีนี้จะขอยกตัวอย่างการสร้างคลิปวิดีโอจากด้วยไฟล์รูปภาพในลักษณะของสไลด์ประกอบเสียงเพลงจะคลิกที่เมนู Import Picture จากนั้นก็คลิกเลือกไฟล์รูปภาพเข้ามาก่อนดังรูปค่ะ
4. ตอนนี้ไฟล์ภาพที่เราเลือกก็จะมาอยู่ใน Collection เรียบร้อยแล้ว
5. นำไฟล์เสียงประกอบเข้ามาด้วยโดยคลิกที่เมนู Import audio or music จากนั้นก็เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการซึ่งเราสามารถที่จะใช้ไฟล์เพลง mp3 ได้ด้วยนะคะ
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
6. ตอนนี้ไฟล์เสียงก็เข้าใน Collection เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
7. ตอนนี้ใน Collection ก็มีไฟล์ภาพและไฟล์เสียงพร้อมให้เรานำมาสร้างเป็นคลิปวิดีโอได้แล้วล่ะค่ะ
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
8 . คลิก Show Timeline เพื่อทำการจัดเรียง
9. ก็จะแสดงการทำงานในลักษณะของ Timeline ดังรูป
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
10. ทำการลากไฟล์รูปภาพจาก Collection ลงมายัง Timeline ตามความต้องการค่ะ(จะลากลงมากี่ภาพก็ได้)
11.จากนั้นคลิกกับไปยัง Show Storyboard เพื่อทำการตกแต่งคลิปวิดีโอของเราค่ะ
12.ตอนนี้ก็เข้ามาในโหมดการทำงานแบบ Storyboard แล้วล่ะค่ะ จะเห็นว่ามีรูปภาพเรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวาดังรูป
13. อธิบายเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ A คือที่ที่เราจะลากeffect มาใส่ ส่วน B คือที่ที่จะลากtransitionsมาใส่(transitionเป็นการทำeffectให้เกิดขึ้นระหว่างการเปลี่ยนรูปภาพจากอีกรูปไปยังอีกรูปค่ะ)
14. เอาล่ะ ให้เพื่อนๆ ลาก effect มาใส่ก่อนโดยคลิกที่เมนู View video effects จากนั้นก็เลือก effect ที่ต้องการ(สามารคลิกเล่นดูก่อนได้จากส่วนPreviewค่ะ) เลือกได้แล้วก็ลากeffect มาวางลงในรูปภาพบนStoryboard ได้เลยค่ะ
15.ขั้นตอนถัดมาก็ลาก Transition ลงมาวางค่ะ
16. คลิกปุ่ม Show Timeline อีกครั้ง
17. เพื่อนลามารถปรับได้ว่าจะให้รูปภาพไหนเล่นหรือโชว์นานๆ ก็ให้คลิกมาค้างแล้วลากค่ะ
18. ตัวเลขที่ปรากฏอยู่ด้านบนเส้น Timeline คือระยะเวลาที่คลิปวิดีโอจะเล่นนั่นเองค่ะ โดยมีหน่วยเป็นวินาที
19.ที่นี้ก็มาถึงขั้นตอนการใส่เสียงแล้วล่ะคะ โดยให้เพื่อนๆ คลิกไปที่เมนู Show collections ดังรูป
20. ทีนี้ลากไฟล์เสียงที่เตรียมไว้ใน Collection ลงมาบน Timeline ได้แล้วล่ะค่ะ
21. เสียงก็จะปรากฏบน Timeline ดังรูป
22. ถ้าเพลงยาวไปเราก็สามารถที่จะตัดส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกโดยการลากส่วนท้ายหรือส่วนบนของเสียงเข้ามา
23. ทดสอบด้วยการเล่นดูค่ะว่า โอเคมั๊ย
26. ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือการบันทึกเป็นไฟล์คลิปวิดีโอค่ะ ให้คลิกที่เมนู Save to my computer
27. ตั้งชื่อไฟล์(ในข้อ1) และเลือกที่เก็บไฟล์ (ในข้อ 2) ซึ่งจากตัวอย่างจะเป็นโฟลเดอร์ชื่อ My Videos (เป็นโฟลเดอร์ที่อยู่ใน My Documents อีกที)
26. คลิกที่ปุ่ม Next
27. กำลังบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอค่ะ รอแป้บนึง
28. ถ้าต้องการให้เล่นคลิปที่เราสร้างหลังจากกดปุ่ม Finish ก็ให้เลือกดังรูปค่ะ
29. หลังจากเสร็จสิ้นจากขั้นตอนการบันทึกคลิปวิดีโอ ไฟล์ที่เราบันทึกก็จะอยู่ใน My Videos
30. ย้อนกลับไปที่โปรแกรม Windows Movie Maker อีกครั้งเพื่อทำการ Save Project ที่เราได้ทำขึ้น ประโยชน์ของการ Save Project ก็คือ สามารถนำมาแก้ไขปรับแต่งภายหลังได้นั่นเองค่ะ โดยคลิกที่เมนู File > Save Project As.. ดังรูป
31. เลือกโฟลเดอร์ที่จะเก็บ Project ของเรา จากนั้นคลิก Save ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ