วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โปรแกรมทำ mv ง่ายๆด้วยตัวเอง


โดยปกติถ้าเราจะทำวีดีโอPresentationหรือตัดต่อวีดีโอ เราจะใช้โปรแกรม Sony Vegas หรือProshow Gold แต่โปรแกรมที่พูดถึงมีขั้นตอนที่อาจจะยุ่งยากสักนิดนึง สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้หรือมือใหม่หัดทำอีกทางเลือกหนึ่งของการทำวีดีโอแบบง่ายๆ ที่เด็กๆ ป.2 - ป.3ก็สามารถทำวีดีโอของตนเองได้ คือใช้โปรแกรมที่มากับ Windows ชื่อโปรแกรม windows movie maker
ตอนนี้เป็นตอนแรกที่จะนำเสนอวิธีการทำวีดีโอแบบง่ายๆจากwindowsmovie maker ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายๆเหมาะสำหรับการทำวีดีโอที่ไม่ได้ต้องการ effect อะไรมากมายตอนแรกนี้จะเป็นวิธีการทำวีดีโอภาพประกอบเพลง หรือที่เรียกว่า VDOPresentation ซึ่งสามารถนำไปทำได้หลายอย่างแล้วแต่เราต้องการค่ะเช่น presentationงานแต่งงาน ของขวัญวันเกิด การนำเสนอหรือในโอกาสพิเศษอื่นๆ ที่ต้องการจะนำภาพมาทำเป็นวีดีโอค่ะ


วิธีใช้โปรแกรม Windows Movie Maker

1. คลิกปุ่ม Start  >  All Programs  >  Windows Movie Maker ทีนี้โปรแกรมก็พร้อมที่จะทำงานแล้วล่ะค่ะ
<a mce_thref=images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />
 ส่วนที่ 1 Task Pane เป็นส่วนบอกลำดับขั้นตอนในการทำวีดีโอซึ่งหากเราทำตามขั้นตอนตั้งแต่ 1 – 3 รับรองได้ว่ามีคลิปไว้โชว์เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ
ส่วนที่ 2 Collections ส่วนนี้ใช้เป็นที่เก็บไฟล์วีดีโอไฟล์ภาพนิ่งหรือ ไฟล์เสียงที่เราได้นำเข้ามาใช้ในการทำคลิปค่ะ
ส่วนที่ 3 Preview ส่วนนี้สำหรับแสดงคลิปวีดีโอตัวอย่างที่ถูกเลือกขึ้นมาจากหน้าต่างCollections หรือทดลองเล่นคลิประหว่างแก้ไขตกแต่งค่ะ
ส่วนที่4 Timeline/Story board เป็นส่วนที่เราต้องใช้บ่อยที่สุดค่ะเพราะเป็นส่วนที่ใช้ในการตกแต่งแก้ไขคลิปวิดีโอของเรานั่นเองค่ะ

<a mce_thref=images by free.in.th


2.  เริ่มต้นด้วยการนำคลิปวิดีโอที่ต้องการตกแต่งเข้ามาในโปรแกรม Windows Movie Maker ค่ะ  อย่างที่เรียนให้ทราบตั้งแต่ต้นว่า เราเริ่มต้นด้วยการทำงานตามลำดับใน Task Pane โดยเราสามารถนำคลิปวิดีโอเข้ามาตกแต่งได้4วิธี ค่ะ คือ<a mce_thref=images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />

- Capture from video device อันนี้สำหรับผู้ที่ต้องการนำวิดีโอจากกล้องDigital Video (หรือที่ใครๆมักเรียกว่า Handy -Import Video อันนี้จะเป็นการนำเข้าวิดีโอในรูปแบบของไฟล์วิดีโอที่เรามีอยู่แล้วในHard disk ,แผ่น CD,ใน ThumbDrive หรือในแผ่น DVD
-Import Picture เป็นการนำไฟล์รูปภาพมาสร้างเป็นคลิปวิดีโอ คล้ายสไลด์ค่ะ
-Import audio or music สำหรับผู้ที่ต้องการใส่เสียงเข้าไปในคลิปวิดีโอ เมนูนี้จำเป็นอย่างมากค่ะ
3. ในทีนี้จะขอยกตัวอย่างการสร้างคลิปวิดีโอจากด้วยไฟล์รูปภาพในลักษณะของสไลด์ประกอบเสียงเพลงจะคลิกที่เมนู Import Picture จากนั้นก็คลิกเลือกไฟล์รูปภาพเข้ามาก่อนดังรูปค่ะ
<a mce_thref=
4.  ตอนนี้ไฟล์ภาพที่เราเลือกก็จะมาอยู่ใน Collection เรียบร้อยแล้ว

<a mce_thref=

5. นำไฟล์เสียงประกอบเข้ามาด้วยโดยคลิกที่เมนู Import audio or music จากนั้นก็เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการซึ่งเราสามารถที่จะใช้ไฟล์เพลง mp3 ได้ด้วยนะคะ

<a mce_thref=
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />

6.  ตอนนี้ไฟล์เสียงก็เข้าใน Collection เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
7. ตอนนี้ใน Collection ก็มีไฟล์ภาพและไฟล์เสียงพร้อมให้เรานำมาสร้างเป็นคลิปวิดีโอได้แล้วล่ะค่ะ

<a mce_thref=
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" /> 

8 . คลิก Show Timeline เพื่อทำการจัดเรียง
9. ก็จะแสดงการทำงานในลักษณะของ Timeline ดังรูป
<a mce_thref=
Thanks: gclub" border="" hspace="" vspace="" width="" height="" align="" />

10. ทำการลากไฟล์รูปภาพจาก Collection ลงมายัง Timeline ตามความต้องการค่ะ(จะลากลงมากี่ภาพก็ได้)
<a mce_thref=
11.จากนั้นคลิกกับไปยัง Show Storyboard เพื่อทำการตกแต่งคลิปวิดีโอของเราค่ะ
<a mce_thref=
12.ตอนนี้ก็เข้ามาในโหมดการทำงานแบบ Storyboard แล้วล่ะค่ะ  จะเห็นว่ามีรูปภาพเรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวาดังรูป

<a mce_thref=

 13. อธิบายเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ  A คือที่ที่เราจะลากeffect มาใส่  ส่วน B คือที่ที่จะลากtransitionsมาใส่(transitionเป็นการทำeffectให้เกิดขึ้นระหว่างการเปลี่ยนรูปภาพจากอีกรูปไปยังอีกรูปค่ะ)



14. เอาล่ะ ให้เพื่อนๆ ลาก effect มาใส่ก่อนโดยคลิกที่เมนู View video effects จากนั้นก็เลือก effect ที่ต้องการ(สามารคลิกเล่นดูก่อนได้จากส่วนPreviewค่ะ)  เลือกได้แล้วก็ลากeffect มาวางลงในรูปภาพบนStoryboard ได้เลยค่ะ
<a mce_thref=


15.ขั้นตอนถัดมาก็ลาก Transition ลงมาวางค่ะ

<a mce_thref=


16. คลิกปุ่ม Show Timeline อีกครั้ง
17. เพื่อนลามารถปรับได้ว่าจะให้รูปภาพไหนเล่นหรือโชว์นานๆ ก็ให้คลิกมาค้างแล้วลากค่ะ 

<a mce_thref=

18. ตัวเลขที่ปรากฏอยู่ด้านบนเส้น Timeline คือระยะเวลาที่คลิปวิดีโอจะเล่นนั่นเองค่ะ โดยมีหน่วยเป็นวินาที
 19.ที่นี้ก็มาถึงขั้นตอนการใส่เสียงแล้วล่ะคะ  โดยให้เพื่อนๆ คลิกไปที่เมนู Show collections ดังรูป
20. ทีนี้ลากไฟล์เสียงที่เตรียมไว้ใน Collection ลงมาบน Timeline ได้แล้วล่ะค่ะ
<a mce_thref=

21. เสียงก็จะปรากฏบน Timeline ดังรูป
<a mce_thref=
 
 
 22. ถ้าเพลงยาวไปเราก็สามารถที่จะตัดส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกโดยการลากส่วนท้ายหรือส่วนบนของเสียงเข้ามา
 23. ทดสอบด้วยการเล่นดูค่ะว่า โอเคมั๊ย
 
<a mce_thref=
 
 
 
26. ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือการบันทึกเป็นไฟล์คลิปวิดีโอค่ะ  ให้คลิกที่เมนู Save to my computer 
27.  ตั้งชื่อไฟล์(ในข้อ1) และเลือกที่เก็บไฟล์ (ในข้อ 2) ซึ่งจากตัวอย่างจะเป็นโฟลเดอร์ชื่อ My Videos (เป็นโฟลเดอร์ที่อยู่ใน My Documents อีกที)

<a mce_thref=

26. คลิกที่ปุ่ม Next

<a mce_thref=
27. กำลังบันทึกเป็นไฟล์วิดีโอค่ะ รอแป้บนึง

<a mce_thref=

28. ถ้าต้องการให้เล่นคลิปที่เราสร้างหลังจากกดปุ่ม Finish ก็ให้เลือกดังรูปค่ะ

<a mce_thref=

29. หลังจากเสร็จสิ้นจากขั้นตอนการบันทึกคลิปวิดีโอ ไฟล์ที่เราบันทึกก็จะอยู่ใน My Videos

<a mce_thref=

30. ย้อนกลับไปที่โปรแกรม Windows Movie Maker อีกครั้งเพื่อทำการ Save Project ที่เราได้ทำขึ้น  ประโยชน์ของการ Save Project ก็คือ สามารถนำมาแก้ไขปรับแต่งภายหลังได้นั่นเองค่ะ โดยคลิกที่เมนู File > Save Project As.. ดังรูป
<a mce_thref=

31. เลือกโฟลเดอร์ที่จะเก็บ Project ของเรา จากนั้นคลิก Save ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ 

<a mce_thref=